วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

web quest

         
Web Quest


         Web Quest  คือเป็นการใช้แหล่งความรู้ที่มีอยู่มากมายบนระบบอินเทอร์เน็ตมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยผู้สอนในรูปแบบของกิจกรรมและสมมติฐานโดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้มาบูรณาการฝึกนิสัยและทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากระบวนการทำงานกลุ่มและการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งความรู้ต่างๆบนระบบอินเทอร์เน็ต


ประเภทของ Web Quest
1. Web Quest ระยะสั้น (Quest Short Term Web Quest )มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาและบูรณาการความรู้ในระดับเบื้องต้นที่ผู้เรียนจะเผชิญและสร้างประสบการณ์กับแหล่งความรู้ใหม่ๆที่สำคัญจำนวนหนึ่งและสร้างความหมายให้กับประสบการณ์การเรียนรู้ของตนเอง Web Quest ประเภทนี้ใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 1 - 3 คาบเรียน
2. Web Quest ระยะยาว (Longer Term Web Quest) มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระดับการคิดขั้นสูงของผู้เรียน ซึ่งเมื่อจบบทเรียนแล้วผู้เรียนสามารถวิเคราะห์องค์ความรู้ที่ลึกซึ้งและถ่ายโอนไปใช้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งได้และสามารถแสดงออกถึงความเข้าใจในเนื้อหานั้นด้วยการสร้างสรรค์ชิ้นงานออกมาอาจจะอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือในรูปแบบอื่นก็ได้ โดยทั่วไป Web Quest แบบนี้จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน

          WebQuest  แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของครูผู้สอนและส่วนของนักเรียน
               
1. ส่วนของครูผู้สอน เป็นส่วนที่ผู้พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้อธิบายหรือชี้แจงให้กับผู้สอนท่านอื่นที่สนใจ ประกอบด้วย
                          1.1 บทนำ (Introduction)  เป็นส่วนที่กล่าวถึงที่มาของกิจกรรมการเรียนรู้ บอกให้ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเนื้อหาอะไร
                          1.2 เกี่ยวกับผู้เรียน (Learner)  เป็นส่วนที่บอกให้ทราบว่าเนื้อหากิจกรรมนั้นสำหรับนักเรียนชั้นใด นักเรียนควรมีความรู้ใดมาก่อนที่จะเรียนรู้กิจกรรมในเนื้อหานั้น ๆ
                           1.3 มาตรฐานการเรียนรู้ (Standard)  เป็นส่วนที่บอกให้ทราบว่าเนื้อหากิจกรรมนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ใด
                            1.4 กระบวนการ (Process) เป็นส่วนที่บอกให้ทราบถึงการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ในเรื่องนี้ เช่น เวลาที่ใช้ เป็นการเรียนรู้วิชาเดี่ยว ๆ หรือหลายวิชาบูรณาการกัน มีแนวความคิดหลักใดที่นักเรียนอาจเกิด misconception
ครูต้องมีทักษะใดบ้างในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว
                            1.5 ทรัพยากร (Resources)  เป็นส่วนที่แสดงถึงทรัพยากรต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการจัดกิจกรรม เช่น หนังสือ websites ชนิดของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ email ตลอดจนทรัพยากรบุคคล เป็นต้น
                             1.6 การประเมินผล (Evalution) เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นว่า ในการเรียนรู้ของนักเรียนนั้น ครูจะต้องประเมินเรื่องใดบ้าง ชิ้นงานของนักเรียนมีอะไรบ้าง ที่ต้องประเมิน และใช้ rubric ในการประเมิน
                             1.7 สรุป (Conclusion)  เป็นส่วนที่บอกให้ทราบถึงความสำคัญและคุณค่าของเนื้อหากิจกรรมนั้น ๆ
                              
                    2. ส่วนของผู้เรียน เป็นส่วนที่ผู้พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เขียน อธิบายและชี้แจงนักเรียนทราบถึงกิจกรรม แนวทางการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นภายในบทเรียน
                            2.1 บทนำ (Introduction) ส่วนนี้ผู้พัฒนาต้องพยายามกระตุ้นให้นักเรียนสนใจหรือเกิดความสงสัยที่จะติดตามเนื้อหากิจกรรม อาจเป็นรูปภาพ video clip หรือคำถาม เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้นักเรียนทราบถึงการจัดการในการทำกิจกรรมภายในบทเรียน
                             2.2 ภาระงาน (Task) ส่วนนี้ต้องบอกนักเรียนให้ทราบถึงผลลัพธ์ที่นักเรียนต้องจัดทำขึ้นเมื่อจบกิจกรรมนี้แล้ว
                             2.3 กระบวนการ (Process) ส่วนนี้ผู้พัฒนาต้องบอกนักเรียนให้ทราบถึง ขั้นตอนต่าง ๆ ที่นักเรียนต้องดำเนินการ ซึ่งในส่วนนี้จะมีคำถามต่าง ๆ ให้นักเรียนคิดวิเคราะห์ ในการที่จะตอบได้ นักเรียนต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการสืบค้นจาก website ต่าง ๆ ซึ่งผู้พัฒนากิจกรรมได้เข้าไปสืบค้นมาแล้ว                                                                                                                    
                            2.4 แหล่งการเรียนรู้ (Resources)  เป็นส่วนที่แจ้งให้นักเรียนทราบแหล่งค้นคว้าความรู้เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมทั้งหมด
                             2.4 สรุป (Comclusion) ส่วนนี้ผู้พัฒนาต้องสรุปให้นักเรียนทราบว่า เมื่อจบกิจกรรมนั้น ๆ แล้วนักเรียนจะได้เรียนรู้อะไร รวมทั้งอาจทิ้งคำถามที่กระตุ้นให้นักเรียนขยายผลในสิ่งที่เรียนรู้
                              2.5 การประเมินผล (Evaluation) ส่วนนี้ผู้พัฒนาจะแสดงเกณฑ์การตัดสินและความหมายของคะแนนให้นักเรียนทราบ 

หลักการออกแบบ Web Quest
หลักการสำคัญในการออกแบบ Web Quest เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้แก่ผู้เรียนระดับต่างๆดังนี้
1. จัดหาหัวเรื่องที่เหมาะสมกับการสร้าง Web Quest จูงใจผู้เรียน  เพราะWeb Quest เป็นงานสร้างสรรค์ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมใหม่ด้วยการประกอบกิจกรรมเองเป็นหลัก
2. จัดหาแหล่งสนับสนุนแหล่งการเรียนรู้ Web sites ต่างๆ เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญที่จะต้องได้รับการจัดหา คัดสรรและจัดหมวดหมู่เป็นอย่างดีผ่านการกลั่นกรองว่ามีเนื้อหาที่สอดคล้องต่อหลักสูตรและวัตถุประสงค์ของบทเรียน
3. ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนการสร้างสรรค์กิจกรรมใน Web Quest นั้นมีสิ่งที่ควรคำนึงต่อไปนี้
    - เน้นการใช้กิจกรรมกลุ่มที่ให้ผู้เรียนร่วมกันประกอบกิจกรรม ร่วมกันคิดร่วมประสบการณ์และร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานออกมา ทั้งในชั้นเรียน ห้องสมุดห้องคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ที่บ้าน
   - การจูงใจผู้เรียนด้วยการให้ผู้เรียนเข้าไปมีบทบาทในบทเรียนในรูปของบทบาทสมมติให้มากที่สุดไม่ว่าในฐานะนักวิทยาศาสตร์ นักสืบ ผู้สื่อข่าว หมอ ฯลฯ สร้างสถานการณ์ให้น่าสนใจเร้าใจให้พวกเขาติดตาม ร่วมกิจกรรมอย่างกระฉับกระเฉง
   - การพัฒนาในรูปแบบรายวิชาเดี่ยวหรือแบบสหวิทยาการในรูปแบบแรกอาจจะดูง่ายในการพัฒนาแต่อาจจะจำกัดการเรียนรู้สร้างประสบการณ์ชีวิตในบริบทจริง ในขณะที่รูปแบบหลังส่งเสริมประเด็นนี้ได้ดีกว่าและสร้างประสบการณ์ในเชิงลึกแก่ผู้เรียน
4. พัฒนาโปรแกรมสามารถทำได้ทั้งด้วยการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้าง web page ด้วยตนเองด้วยการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปประเภท FrontPage, Dream Weaver, Composer, etc. หรือการจัดหาต้นแบบ(Template) ที่มีอยู่แล้วซึ่งทำให้ง่ายเพราะเพียงแต่ออกแบบกิจกรรมและเอาเนื้อหาใส่เข้าไปซึ่งจะลดปัญหาด้านความจำกัดเกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ลงไปผู้ที่ต้องการต้นแบบนี้สามารถหาได้จาก websites ต่างๆ ได้ไม่ยากนัก
5. ทดลองใช้และปรับปรุงด้วยการหากลุ่มเป้าหมายมาทดลองใช้บทเรียนดูจุดดีจุดด้อยของบทเรียนและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 

องค์ประกอบของ  Web Quest
         Web Quest ที่ดีจะต้องได้รับการออกแบบสำหรับผู้เรียนที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน เป็นโครงการที่สร้างสรรค์ที่มีช่องทางที่ยืดหยุ่นสำหรับผู้เรียนที่จะแสดงออกและการเชื่อมต่อกับแหล่งความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ต่อโครงการสิ่งที่ควรเน้นคือการเรียนรู้อย่างร่วมมือระหว่างผู้เรียนโดยมีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 6 ส่วนคือ
1. บทนำ (Introduction) เป็นขั้นเตรียมตัวผู้เรียนในการที่จะนำเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอนโดยทั่วไปมักจะเป็นการให้สถานการณ์ ที่จะให้ผู้เรียนร่วมแก้ปัญหาหรือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้
2. ภารกิจ (Task) เป็นปัญหาหรือประเด็นที่สำคัญที่ผู้เรียนจะต้องดำเนินการเพื่อหาคำตอบ
3. กระบวนการ (Process) เป็นการชี้แจงว่าผู้เรียนจะต้องปฏิบัติกิจกรรมใดบ้าง เพื่อให้บรรลุภารกิจที่วางไว้โดยมีความยืดหยุ่นให้ผู้เรียนสร้างสรรค์ด้วย จะต้องกิจกรรมทีนำไปสู่ขั้นวิเคราะห์สังเคราะห์และการประเมินค่า กิจกรรมนั้นควรที่จะเน้นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) และ กระบวนการเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative learning)
4. แหล่งความรู้ (Resources) เป็นการให้แหล่งสารสนเทศที่มีบน World Wide Web เพื่อว่าผู้เรียนสามารถนำสาระความรู้เหล่านั้นมาแก้ปัญหาที่ได้รับมอบหมายโดยเน้นแหล่งความรู้หลายแหล่ง และมีความหลากหลาย
5. การประเมินผล (Evaluation) เป็นขั้นการติดตามว่าผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพียงใดจะเน้นการวัดผลในสภาพที่เป็นจริง (Authentic assessment) ซึ่งอาจออกมาในรูปของการประเมินเชิงมิติ(Rubrics) การจัดทำแฟ้มข้อมูล (Portfolio)
6. สรุป (Conclusion) บอกความสำคัญของเนื้อหาบทเรียนนั้นๆเพื่อให้ผู้เรียนได้ความคิดรวบยอดที่ได้ช่วยกันแสวงหาและสร้างขึ้นมาเอง

Web Quest  ที่ดีควรมีลักษณะดังต่อไปนี้
                1. ง่ายต่อความเข้าใจในการใช้
                2. ใช้แหล่งความรู้ที่ดีและมีคุณภาพ
                3. สร้างบทเรียนที่จูงใจผู้เรียน
                4. ขั้นภารกิจต้องอธิบายให้ชัดเจน
                5. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จักการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์
                6. เสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนานให้แก่ผู้เรียน
                7. ช่วยให้ผู้เรียนได้รู้จักใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสืบค้นข้อมูล
                8. ผู้เรียนได้เรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่ม

ตัวอย่างWeb Quest

 
 

แหล่งที่มา
เมื่อวันที่  21 กุมภาพันธ์  2556


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น