วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556



 

กล้องจุลทรรศน์

กล้องจุลทรรศน์ (Microscope) คือ เครื่องมือขยายขอบเขตประสาทสัมผัสตา ให้เห็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ เช่น จุลินทรีย์ เซลล์เม็ดเลือดแดง
ประเภทของกล้องจุลทรรศน์
  1. กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (Light Microscope) แสงที่ใช้ส่องดูวัตถุเป็นแสงจากหลอดไฟหรือแสงแดด โดยใช้กระจกเงาสะท้อนแสงเข้าสู่กล้อง เกิดการขยายภาพจากเลนส์กระจก เกิดภาพซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้
ภาพกล้องจุลทรรศน์เเบบใช้เเสง



  1. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron Microscope) ใช้ลำอิเล็กตรอน ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแทนแสงสว่างที่มองเห็น และใช้เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้าแทนเลนส์แก้ว ใช้ลำอิเล็กตรอนจากปืนยิงผ่านเลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้เกิดภาพบนจอรับภาพ มีกำลังขยายสูงกว่ากล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง แบ่งเป็น



กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน


2.1 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องผ่าน (Transmission Electron Microscope) สามารถมองเห็นองค์ประกอบภายในของเซลล์ได้ชัดเจน มีกำลังขยายสูงมาก
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องผ่าน 


2.2 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด (Scanning Electron Microscope) ใช้ศึกษารูปร่างโครงสร้างและพิ้นผิวของเซลล์ภายนอก ไม่เห็นองค์ประกอบด้านใน
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด



ตารางที่ 1  เปรียบเทียบกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
สิ่งเปรียบเทียบ
กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
ตัวกลางที่ใช้ส่องผ่านวัตถุ
ลำแสงธรรมดา
ลำอิเล็กตรอน
เลนส์ในตัวกล้อง
เลนส์แก้ว
เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า
ตัวกล้อง
มีอากาศ
สุญญากาศ
เลนส์รวมแสง
เลนส์แก้ว
เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า
ระบบถ่ายเทความร้อน
ไม่ต้องใช้
ใช้น้ำ
ภาพที่ได้
ภาพเสมือน หัวกลับ
ภาพจริงปรากฏบนจอรับภาพ
เซลล์ที่ใช้ศึกษา
มีชีวิตหรือตายแล้ว
ตายแล้ว
กำลังขยายสูงสุด
1,000 เท่า
500,000 เท่า
ขนาดวัตถุเล็กสุด
0.2 ไมโครเมตร
0.0005 ไมโครเมตร

 วิธีการใช้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
  1. วางกล้องให้ฐานอยู่บนพื้นรองรับที่เรียบสม่ำเสมอเพื่อให้ลำกล้องตั้งตรง
  2. หมุนเลนส์ใกล้วัตถุ (Objective lens) อันที่มีกำลังขยายต่ำที่สุดมาอยู่ตรงกับลำกล้อง
  3. ปรับกระจกเงาใต้แท่นวางวัตถุให้แสงสะท้อนเข้าลำกล้องเต็มที่
  4. นำสไลด์ที่จะศึกษามาวางบนแท่นวางวัตถุ (Stage) ให้วัตถุอยู่กลางบริเวณที่แสงผ่าน แล้วค่อยๆ หมุนปุ่มปรับภาพหยาบ (Coarse adjustment knob) ให้ลำกล้องเลื่อนลงมาอยู่ใกล้วัตถุที่จะศึกษามากที่สุด โดยระวังอย่าให้เลนส์ใกล้วัตถุสัมผัสกับกระจกปิดสไลด์
  5. มองผ่านเลนส์ใกล้ตา (Eyepiece) ลงตามลำกล้อง พร้อมกับหมุนปุ่มปรับภาพหยาบขึ้นช้าๆ จนมองเห็นวัตถุที่จะศึกษา แล้วจึงเปลี่ยนมาหมุนปรับปุ่มภาพละเอียด (Fine adjustment knob) เพื่อปรับภาพให้ชัด อาจเลื่อนสไลด์ไปมาช้าๆ เพื่อให้สิ่งที่ต้องการศึกษาอยู่กลางแนวลำกล้องขณะปรับภาพ
  6. ถ้าต้องการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น ให้หมุนเลนส์ใกล้วัตถุอันที่มีกำลังขยายสูงขึ้นเข้ามาในแนวลำกล้อง และไม่ควรขยับสไลด์อีก  แล้วหมุนปุ่มปรับภาพละเอียดเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
  7. การปรับแสงที่เข้าในลำกล้องให้มากหรือน้อย ให้หมุนแผ่นไดอะแฟรม (Diaphragm) ปรับแสงตามต้องการ

ข้อควรรู้
การเลื่อนสไลด์เพื่อหาภาพ มีหลักการดังนี้
          เมื่อเลื่อนสไลด์ไปทางซ้าย ภาพที่มองเห็นจะเลื่อนไปทางขวา
          เมื่อเลื่อนสไลด์ไปทางขวา ภาพที่มองเห็นจะเลื่อนไปทางซ้าย
          เมื่อเลื่อนสไลด์ลง ภาพจะเลื่อนขึ้น เมื่อเลื่อนสไลด์ขึ้น ภาพจะเลื่อนลง
เมื่อใช้ Objective กำลังขยายต่ำ สนามภาพกว้าง ศูนย์กลางภาพกว้าง รายละเอียดน้อย ภาพสว่าง ระยะระหว่างเลนส์กับแท่นห่างกัน

สูตรสำคัญเกี่ยวกับกล้องจุลทรรศน์
          กำลังขยายของกล้องจุลทรรศน์
             = กำลังขยายของเลนส์ใกล้วัตถุ x กำลังขยายของเลนส์ใกล้ตา
          ขนาดจริงของวัตถุ
             = ขนาดของภาพที่ปรากฏจากกล้องจุลทรรศน์
                                 กำลังขยายของกล้อง        
          การหาเส้นผ่านศูนย์กลางของจอภาพ
              = กำลังขยายของเลนส์ต่ำสุด x เส้นผ่านศูนยกลางของจอภาพต่ำสุด
                                             กำลังขยายของเลนส์ (ขณะที่ศึกษา



แหล่งที่มา:  http://th.wikipedia.org/wiki  เมื่อวันที่  1กุมภาพันธ์  2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น