กล้องจุลทรรศน์
กล้องจุลทรรศน์ (Microscope) คือ เครื่องมือขยายขอบเขตประสาทสัมผัสตา ให้เห็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ เช่น จุลินทรีย์ เซลล์เม็ดเลือดแดง
ประเภทของกล้องจุลทรรศน์
- กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (Light Microscope) แสงที่ใช้ส่องดูวัตถุเป็นแสงจากหลอดไฟหรือแสงแดด โดยใช้กระจกเงาสะท้อนแสงเข้าสู่กล้อง เกิดการขยายภาพจากเลนส์กระจก เกิดภาพซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้
ภาพกล้องจุลทรรศน์เเบบใช้เเสง
- กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron Microscope) ใช้ลำอิเล็กตรอน ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแทนแสงสว่างที่มองเห็น และใช้เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้าแทนเลนส์แก้ว ใช้ลำอิเล็กตรอนจากปืนยิงผ่านเลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อให้เกิดภาพบนจอรับภาพ มีกำลังขยายสูงกว่ากล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง แบ่งเป็น
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
2.1 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องผ่าน (Transmission Electron Microscope) สามารถมองเห็นองค์ประกอบภายในของเซลล์ได้ชัดเจน มีกำลังขยายสูงมาก
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องผ่าน
2.2 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด (Scanning Electron Microscope) ใช้ศึกษารูปร่างโครงสร้างและพิ้นผิวของเซลล์ภายนอก ไม่เห็นองค์ประกอบด้านใน
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด
ตารางที่ 1 เปรียบเทียบกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงและกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
สิ่งเปรียบเทียบ
|
กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
|
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
|
ตัวกลางที่ใช้ส่องผ่านวัตถุ
|
ลำแสงธรรมดา
|
ลำอิเล็กตรอน
|
เลนส์ในตัวกล้อง
|
เลนส์แก้ว
|
เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า
|
ตัวกล้อง
|
มีอากาศ
|
สุญญากาศ
|
เลนส์รวมแสง
|
เลนส์แก้ว
|
เลนส์แม่เหล็กไฟฟ้า
|
ระบบถ่ายเทความร้อน
|
ไม่ต้องใช้
|
ใช้น้ำ
|
ภาพที่ได้
|
ภาพเสมือน หัวกลับ
|
ภาพจริงปรากฏบนจอรับภาพ
|
เซลล์ที่ใช้ศึกษา
|
มีชีวิตหรือตายแล้ว
|
ตายแล้ว
|
กำลังขยายสูงสุด
|
1,000 เท่า
|
500,000 เท่า
|
ขนาดวัตถุเล็กสุด
|
0.2 ไมโครเมตร
|
0.0005 ไมโครเมตร
|
วิธีการใช้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
- วางกล้องให้ฐานอยู่บนพื้นรองรับที่เรียบสม่ำเสมอเพื่อให้ลำกล้องตั้งตรง
- หมุนเลนส์ใกล้วัตถุ (Objective lens) อันที่มีกำลังขยายต่ำที่สุดมาอยู่ตรงกับลำกล้อง
- ปรับกระจกเงาใต้แท่นวางวัตถุให้แสงสะท้อนเข้าลำกล้องเต็มที่
- นำสไลด์ที่จะศึกษามาวางบนแท่นวางวัตถุ (Stage) ให้วัตถุอยู่กลางบริเวณที่แสงผ่าน แล้วค่อยๆ หมุนปุ่มปรับภาพหยาบ (Coarse adjustment knob) ให้ลำกล้องเลื่อนลงมาอยู่ใกล้วัตถุที่จะศึกษามากที่สุด โดยระวังอย่าให้เลนส์ใกล้วัตถุสัมผัสกับกระจกปิดสไลด์
- มองผ่านเลนส์ใกล้ตา (Eyepiece) ลงตามลำกล้อง พร้อมกับหมุนปุ่มปรับภาพหยาบขึ้นช้าๆ จนมองเห็นวัตถุที่จะศึกษา แล้วจึงเปลี่ยนมาหมุนปรับปุ่มภาพละเอียด (Fine adjustment knob) เพื่อปรับภาพให้ชัด อาจเลื่อนสไลด์ไปมาช้าๆ เพื่อให้สิ่งที่ต้องการศึกษาอยู่กลางแนวลำกล้องขณะปรับภาพ
- ถ้าต้องการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น ให้หมุนเลนส์ใกล้วัตถุอันที่มีกำลังขยายสูงขึ้นเข้ามาในแนวลำกล้อง และไม่ควรขยับสไลด์อีก แล้วหมุนปุ่มปรับภาพละเอียดเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
- การปรับแสงที่เข้าในลำกล้องให้มากหรือน้อย ให้หมุนแผ่นไดอะแฟรม (Diaphragm) ปรับแสงตามต้องการ
ข้อควรรู้
การเลื่อนสไลด์เพื่อหาภาพ มีหลักการดังนี้
เมื่อเลื่อนสไลด์ไปทางซ้าย ภาพที่มองเห็นจะเลื่อนไปทางขวา
เมื่อเลื่อนสไลด์ไปทางขวา ภาพที่มองเห็นจะเลื่อนไปทางซ้าย
เมื่อเลื่อนสไลด์ลง ภาพจะเลื่อนขึ้น เมื่อเลื่อนสไลด์ขึ้น ภาพจะเลื่อนลง
เมื่อใช้ Objective กำลังขยายต่ำ สนามภาพกว้าง ศูนย์กลางภาพกว้าง รายละเอียดน้อย ภาพสว่าง ระยะระหว่างเลนส์กับแท่นห่างกัน
สูตรสำคัญเกี่ยวกับกล้องจุลทรรศน์
กำลังขยายของกล้องจุลทรรศน์
= กำลังขยายของเลนส์ใกล้วัตถุ x กำลังขยายของเลนส์ใกล้ตา
ขนาดจริงของวัตถุ
= ขนาดของภาพที่ปรากฏจากกล้องจุลทรรศน์
กำลังขยายของกล้อง
การหาเส้นผ่านศูนย์กลางของจอภาพ
= กำลังขยายของเลนส์ต่ำสุด x เส้นผ่านศูนยกลางของจอภาพต่ำสุด
กำลังขยายของเลนส์ (ขณะที่ศึกษา
แหล่งที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki เมื่อวันที่ 1กุมภาพันธ์ 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น